
ในที่สุดไข้หวัดใหญ่ 2009 ก็ระบาดกวาดเรียบ รร.ในกทม.ไปแล้ว ระยะหลังดูเหมือนข่าวแผ่วลง ไม่เหมือนตอนแรกที่พบ ตอนนั้น รร.ตกเป็นเป้าของสังคมไป ทั้งนักข่าวและตำรวจเต็มหน้า รร.ราวกับมีอาชญากรล่องลอยอยู่ใน รร.
คนส่วนใหญ่จับตามองด้วยความอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน แล้วช่วงนั้นถ้าเด็กคนใหนเกิดป่วยมีไข้ไปหาหมอ ถ้าบอกว่าเป็นเด็ก ซค. ปั๊ป โดนแยกขึ้นทะเบียนทันที ฮี่ ฮี่..เหมือนตัวเชื้อโรคเลย
ข่าวล่าสุดจากแวดวงเพื่อนที่เป็นหมอบอกว่า เฉพาะเด็ก ซค. ที่คอนเฟิร์มว่าติดเชื้อ H1N1 ทะลุไปถึง 170++ คน ส่วนเด็ก ซฟ. มีถึง 12++คน (จากตอนที่ปิด รร.ครั้งแรกยังไม่มีเด็กเป็นเลย) ฟังแล้วโอ้โห!! น่ากลัวจัง นี่มันแค่มองหน้ากันก็ติดใช่มั้ยหว่า แม้ความรุนแรงของโรคจะอยู่ในขั้นเอาอยู่ แต่อัตราการระบาดมันเอาไม่อยู่ ฝนซา เชื้อโรคก็แผ่ว ฝนหนักอีกเมื่อไหร่ ใครจะอยู่ก็อยู่ ตัวใครตัวมันล่ะทีนี้!
เข้าหน้าฝนเต็มๆ เมื่อไหร่ คงต้องห้ามลูกหายใจตอนไป รร. ด้วยมั้ง
ตอนนี้นอกจากพร่ำบอกลูกถึงเรื่องการดูแลตัวเอง ล้างมือทุกครั้ง ห้ามแคะโน่น ป้ายนี่ไปเรื่อยแล้ว ที่เน้นเป็นพิเศษจริงๆ คือ ตอนลูกเดินขึ้นบันไดที่ รร. ห้ามรูดเสานะลูกนะ!

vbvb
ตอบลบอ่านแล้วนึกถึงเรื่องหลายชีวิตในรถไฟฟ้าเลยค่ะ
นอกจากรูดเสา
อีกจุดซึ่งควรระวัง คือ "ที่จับรถเข็น" เวลาซื้อของในห้างนะคะ
เมื่อวานฟังวิทยุ ที่เกาหลีใต้มีการทำวิจัย บอกว่า เป็นจุดที่มีเชื้อโรคมากกว่าห้องน้ำถึง 1000 เท่าเชียว
ห้องน้ำสาธารณะยังทำความสะอาดบ่อย
แต่รถเข็นซื้อของในห้าง บางห้างในเกาหลี ทำความสะอาดปีละ 2 ครั้งเอง
บรึ๊ย บรึ๊ย
เห็นว่า ตอนนี้เวลาไอ เค้าไม่ให้เอามือปิดปาก
ตอบลบเพราะถ้าไม่ล้างมือทันที แล้วไปจับสิ่งของ
คนอื่นมาจับต่อจะติดได้
เค้าให้ยกข้อศอกมาปิดหละ
คุณหนึ่ง..
ตอบลบแทงกิ้วสำหรับเรื่องรถเข็น ช่วงนี้พี่ไม่พาลูกเดินห้างเลย สังเกตุว่าคนบางตาลงมากเหมือนกัน น่ากลัวเน้อ ได้แต่รอวัคซีนให้มาก่อน คงจะคลายความน่ากลัวลงไปได้เยอะ
แป้งจ๋า...
ตอบลบใช้ข้อศอกปิดเลยเหรอ แล้วมันจะถึงเหรอจ๊ะ เราว่าน่าจะหมายถึงช่วงแขนมากว่านะ แต่ถ้าม่อนทำได้ โปรดสาธิตให้ดูด้วยจะเป็นเกียรติอย่างสูง