24 พฤศจิกายน 2551

THE ROYAL CREMATION GROUND


เย็นวันศุกร์ที่ 21 ตัดสินใจไปสนามหลวงเพื่อชมพระเมรุที่ต้องขอย้ำว่า สิบปากว่าก็ไม่เท่าตาเห็น เพราะภาพที่ถ่ายมาไม่ถึงครึ่งของภาพที่เห็นด้วยสายตาตนเอง สวยมากจริงๆ

เราสี่คนออกจากบ้าน 17.30 น. ตอนแรกจะนั่ง taxi ไป แต่คิดเข้าข้างตัวเองไว้ว่ารถไม่น่าจะติด ก็เลยขับรถไป ใช้เส้นทางปกตินี่แหละ ไปจอดรถที่ท่ามหาราช รถไม่ติดเลยในตอนนั้น โชคดีที่เอารถมา จะมีชะลอเล็กน้อยตอนเลาะไปเข้าทางท่าช้าง ผ่านมหา'ลัยที่เคยเรียน ชี้ชวนให้ลูกดู ลูกบอกว่าเล็กจัง (เอากะเค้าสิ) แวะกินข้าวที่ S&P ที่ท่ามหาราชนั่นแหละ แล้วจึงเดินลัดเลาะข้างหลังรั้วศิลปากรไปยังสนามหลวง (ความจริงเดินไปทางท่าพระจันทร์จะตรงทางเข้าชมพอดี) ก็ต้องบอกว่าได้ดูอยู่ไกลๆ นะ เพราะคนมากมายมหาศาล เข้าไม่ถึงตัวองค์พระเมรุ (เบอร์ 1 ตามรูปข้างล่าง) แม้แต่ส่วนนิทรรศการก็คนเยอะ ต้องถอดรองเท้าเข้าไปชม ผู้คนล้นหลามต่างกันพาเลือกมุมถ่ายรูป ทั้งกล้องปัญญาอ่อนแบบเรา และ กล้องระดับโปร มีนักข่าวต่างชาติด้วย ได้ยินกำลังบรรยายประมาณว่า amazing wonderful อยู่แว่วๆ อืมม์..ก็วันเดอร์ฟูลจริงๆ พูดไม่ถูกเลย เลนส์ที่เก็บภาพได้ดีที่สุดก็คือเลนส์จากสายตาเรานี่แหละ เห็นของจริงแล้วมาดูภาพที่ถ่ายมา เรียกว่าคนละเรื่องเดียวกันเลย

เราดูได้ไม่นาน ถ่ายรูปกันไม่กี่รูป เด็กๆ บ่นเมื่อย เพราะเนื่องจากว่าเดินเท้ากันมาไกล อากาศค่ำวันนั้นก็อบอ้าว ไม่หนาวอย่างที่คิด และเจ้าหน้าที่ห้ามไม่ให้กินอะไรทั้งสิ้นเมื่อเข้าสู่เขตหวงห้าม แต่พอดูเสร็จออกมาข้างนอก ได้กินป๊อปคอร์นที่ซื้อมา ก็หายเมื่อย เดินต่อได้ ไม่บ่นเลยแฮะ

จากนั้นก็เดินเลียบวัดมหาธาติไปท่าพระจันทร์ พาเด็กๆ ลองนั่งเรือข้ามฟากไปท่าวังหลังแต่ไม่ลงนะ ก็นั่งกลับมาขึ้นที่ท่าพระจันทร์ที่เดิม แหม...เด็กนี่เนอะ ก็ตื่นเต้นและสนุกกันไปตามระเบียบ ความสุขง่ายๆ ไม่แพงเลย สัก 2 ทุ่มก็กลับ ระหว่างทางจากท่าพระจันทร์ไปท่ามหาราช ก็แวะดูของที่วางขาย เนื่องจากคุณพ่อบ้านเปิดไฟเขียวบอกว่า เอ้า เธอจะดูอะไรก็ดู ก็เลยเข้าใจต่อเอาว่าคุณพ่อบ้านหมายความว่า เดี๋ยวพี่จ่ายไม่อั้นน้อง... เลยกระเหี้ยนกระหือรือ กะจะกระจายรายได้ให้ถ้วนทั่ว แต่ดูแล้ว ลูบแล้ว จับแล้ว ก็ยังไม่มีอะไรทำให้ใจหวั่นไหวได้เลย แอบเซ็งนิดๆ งานนี้เลยกลับบ้านมือเปล่า อดกัน!!

ได้แต่แอบหมายมั่นไว้ในใจว่าคราวหน้า จะไม่ดูนาน ลูบนานอีกแล้ว หยิบเลย แล้วค่อยมาดูที่บ้าน (ฮ่า ฮ่า ออกแนวผลาญมากเลยนะนี่)

พอขับรถออกมาถนนหน้าพระลาน เจอของจริงแล้วทีนี้ เพราะรถติดมากๆ ก็เลยตัดสินใจไม่กลับทางปิ่นเกล้า เพราะประเมิณจากภาพที่เห็นว่าถนนกลายเป็นลานจอดรถไปแล้ว เลยตีรถออกไปทางปากคลอง เลยเถิดไปสะพานพุทธให้มันรู้แล้วรู้รอด ครอบครัวเราเป็นประเภทถ้าให้เลือกใกล้แต่รถติด กับไกลและอ้อมโลก (ประเภทไปโผล่นครปฐมแล้วค่อยวกกลับเข้ากรุงเทพแนวๆ นั้น ฮ่า ฮ่า ทำบ่อย) เราเลือกอย่างหลังกันเสมอ คืนนั้นเลยกลับถึงบ้าน 3 ทุ่ม เด็กๆ หลับกันไปแล้ว เป็นอันจบ trip ง่ายๆ แต่ประทับใจไปอีกครั้งหนึ่ง เช่นนี้แล

หากใครมีโอกาสไป โดยเฉพาะเวลากลางคืน จะงดงามมาก ยิ่งมีกล้องดีๆ จะได้รูปแจ่มกว่าที่เราถ่ายมา ถ้าไปกลางวันก็น่าจะได้ชมดอกไม้กันชัดๆ นี่เราไม่เห็นเลย แต่ไม่เป็นไร ...








1 ความคิดเห็น:

  1. กริ๊ด
    ขาประจำมารายงานตัวแล้วฮ่ะ

    เรียนอยู่ใกล้กันเรยค่า
    คุณยายก็เรียนที่เดียวกับพี่ปุ้ม


    อยากไปจริงๆ
    แต่ลูกเล็ก อยู่ อุ้มเดินไม่ไหวแน่
    ฮือๆ


    ปล.
    แอบโฆษณา
    เราไปไม่ได้ ใช้วิธีเก็บสิ่งพิมพ์ฉบับพิเศษของบางกอกโพสต์ไว้้

    แล้วก็อันที่แนบมากับหนังสือพิมพ์ ก่อนวันส่งเสด็จไม่กี่วัน

    กราฟฟิคสวยมากค่ะ
    เก็บไว้ กะให้ลูกได้ศึกษา

    ตอบลบ