มาแปะหัวเรื่องไว้ก่อน เดี๋ยวจะไป copy จากรักลูกมาใส่ มีของหลายคนที่พูดได้ดี ตรงใจสุดๆ
จาก พ่อน้องพลอย 14.6.51
สังเกตว่าตอนนี้ ผู้ปกครองเราส่วนใหญ่มักจะตั้งเป้าให้ลูกสามารถสอบเข้า รร.ดังๆได้ โดยคำนึงถึง"ผลลัพธ์" มากกว่า "วิธีการ" (เหมือนผู้ใหญ่บ้านเมืองเราตอนนี้กำลังทำกันอยู่เลย) คือทำยังไงก็ได้ ให้ลูกสามารถไปสอบแข่งขันกับคนอื่นได้ สุดท้ายก็ไปลงที่"การกวดวิชา" เพราะ มันสะดวกรวดเร็ว ได้ผลทันใจดี ผมอยากให้ลองมองอย่างนี้ครับ เวลาเราไปเที่ยวที่ไหนซักที่ การจะไปถึง"จุดหมายปลายทาง" เราสามารถเลือกได้ว่าจะ"เดินทาง" ด้วยวิธีไหน แต่ละวิธีก็ไปถึงจุดหมายปลายทางได้เหมือนกัน แต่อาจจะเร็วช้าต่างกัน และ "สิ่งที่อยู่ระหว่างทาง" ที่เราจะได้รับ ทั้งประสบการณ์ ความรื่นรมย์ สุนทรียะ ความประทับใจ ก็ต่างกันไปด้วย ถามว่า แล้วเราจะเลือกทางไหนดีล่ะ มันก็คงขึ้นอยู่กับเราว่าอยากให้ลูกเราได้อะไรจากการศึกษา
สำหรับผม ผมชอบคำๆนี้ครับ " Education is growth" การศึกษา คือ การเจริญงอกงาม คือ ทางใดที่ทำให้ลูกเรา"เจริญงอกงาม"ทางความคิด สติปัญญา สังคม และ วุฒิภาวะทางอารมณ์ ผมก็จะเลือกทางนั้น ผมไม่อยากให้ระบบการศึกษาบ้านเรา เหมือนโรงงานอุตสาหกรรมที่ผลิตสินค้าเพื่อตอบโจทย์ทางการตลาดอย่างเดียว ผลิตมาเพื่อป้อนตลาดแรงงานกันโดยละเลย"ความเป็นคน" ทางแก้คงต้องอยู่ที่ผู้ปกครองทุกท่านแล้วล่ะครับ
อีกอันนึงที่ผมไม่ค่อยชอบเลย คือ ตอนนี้เรากำลังเห่อคำว่า"อัจฉริยะ"กันเป็นพิเศษ เรามุ่งหวังสร้าง"อัจฉริยะ"กัน เพราะ "อัจฉริยะ...สร้างได้" นัยว่า คำๆนี้มาจากหนังสือเล่มนึงที่ขายดี เพราะ นำทฤษฎีพหุปัญญาของ Howard Gardner มาเขียนให้คนทั่วไปเข้าใจได้ในวงกว้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่ ใช้เทคนิคทางการตลาดโดยการใช้คำว่า "อัจฉริยะ" มาเป็นจุดขาย ทำให้ทุกคนอยากให้ลูกเป็น"อัจฉริยะ"กันหมด ตอนนี้ พ่อแม่ทุกคนเลยพยายามสร้าง"อัจฉริยะ"ตัวน้อยๆ กันอย่างหนัก โดยที่หารู้ไม่ว่า เด็กบางคนได้กลายเป็น "Hurried child syndrome" ไปโดยที่ไม่รู้ตัว อย่าลืมนะครับว่าเด็ก ไม่ใช่ "ผู้ใหญ่ตัวน้อยๆ" เขาอาจจะ"พูด"และ "ทำ"ได้แบบผู้ใหญ่ แต่ความรู้สึกของเขาก็ยังเป็น"crying child" อยู่ดี
มีการศึกษาพบว่าเด็กที่โดน"เคี่ยว"อย่างหนัก โดยละเลยพัฒนาการตามวัยของเขาที่จะได้"เล่น"อย่างมีความสุข มักลงเอยด้วยผลที่ไม่พึงประสงค์ เช่น แผลในกระเพาะ (บางคน 7 ขวบก็เป็นแล้ว) ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล สมาธิสั้น จนไปถึง การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น และ ยาเสพติด ที่ร้ายแรงสุด คือ การฆ่าตัวตาย ที่เราคงได้เห็นจากนสพ.แล้ว และ บอกได้เลยว่า คงได้เจอข่าวแบบนี้อีก ทั้งๆที่ไม่มีใครอยากให้เกิด อ่านแล้วหดหู่จัง แต่ก็อยากฝากเอาไว้นะครับ ว่าเราทุกคนต้องดูแลลูก"อย่างมีสติ" และ "รู้เท่าทัน" ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะทำให้เราชื่นใจ ที่ลูกเราเป็นเด็กที่ทั้ง เก่ง ดี และ มีความสุข
จากแม่ภุชงค์ บทพระนิพนธ์ของสมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน วัดบวรฯ
ชีวิตนี้ ที่เกิดมา ก็ถือว่า "น้อยนัก" เมื่อเทียบกับหลายหมื่นล้านชาติที่เราเคยได้เกิดมาแล้ว เป็นชีวิตที่ "น้อยนัก" เมื่อเทียบกับอีกหลายหมื่นหลายแสนล้านชาติที่เรายังต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไปในอนาคต เมื่อชีวิตนี้สั้นนัก น้อยนัก แต่สำคัญนัก เพราะด้วยชีวิตที่น้อยนักชีวิตนี้ สามารถบันดาลให้ชีวิตในภายภาคหน้าของเราไปในนทางดีก็ได้ ทางร้ายก็ได้ ไปในทางที่สูงก็ได้ ที่ต่ำก็ได้
25 มิถุนายน 2551
รวมความคิดคมๆ ตรงใจเกี่ยวกับเรื่องเรียนของลูก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น